IQ ดี เปียโนช่วยได้
กิจกรรมทางดนตรีเปียโนช่วยพัฒนาค
วามฉลาดทางสติปัญญา หรือ IQ ของผู้เรียนได้ ซึ้งเด็กที่มี IQ ดีนั้น ไม่เพียงเรียนเก่ง ทำคะแนนสอบได้ดีเท่านั้น ยังต้องมีความสามารถในการเรียนรู้ การคิดอย่างมีเหตุผล การทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีจุดมุ่งหมายและมีคุณค่าทางสังคม
IQ เป็นสิ่งที่ติดตัวลูกมาแต่เกิดและพัฒนาสมบูรณ์ยิ่งขึ้นตามระดับอายุและสิ่งแวดล้อม แต่ละคนมี IQ ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับพันธุกรรม ความสมบูรณ์ของสมองและระบบประสาท รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ช่วยกระตุ้ม และส่งเสริมให้บุคคลมีโอกาสเรียนรู้ จุดนี้เองที่ดนตรีเปียโนเข้ามาช่วยเสริมให้ลูกมี IQ ดีได้
ทักษะด้านภาษา
ลูกพัฒนาทักษะด้านภาษาได้จากการฟังดนตรีเปียโนและร้องเพลง เพราะในดนตรีเปียโนมีเสียงสูงๆต่ำๆ ของตัวโน้ตคล้ายกับการพูดและอ่านหนังสือที่มีภาษาผันเสียงตามวรรณยุกต์ และดนตรียังมีจังหวะเคาะที่เปรียบได้กับการเว้นวรรรคเมื่อพูดจบคำหรืออ่านจบประโยค ดังนั้น ธรรมชาติของดนตรีจึงมีการจัดระบบในตัวเองคล้ายภาษา
เพลงที่หลากหลายให้กับลูก เพื่อให้ลูกมีประสบการณ์ในการฟังดนตรีหลายชนิด จะเป็นเพลงพื้นบ้าน ไทยเดิม เพลงสากล หรือคลาสสิกก็มีล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น และสำหรับลูกวัยเด็กคุณแม่อาจจะเปิดเพลงสลับกับร้องเพลงปากเปล่า และจังหวะง่ายๆ ด้วยของใกล้มือบ้างก็ได้
นอกจากนี้การเข้าใจในจังหวะของดนตรีเปียโน ยังช่วยให้ลูกมีจังหวะการพูดที่น่าฟัง ไม่รัวเร็วหรือช้าเกินไป ซึ่งเป็นพื้นฐานการพัฒนาความสามารถทางภาษาไปสู่ทักษะการอ่านแลการขียนที่ดีได้ต่อไป ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ไปได้ตลอดชีวิต
ทักษะด้านการคิดคำนวณ
การฟังเพลงและเรียนดนตรีเปียโน ส่งผลดีต่อการพัฒนาทักษะการคิดคำนวณที่เป็นรพื้นฐานของคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เมื่อฟังดนตรีเปียโน โดยเฉพาะเพลงบรรเลงเปียโนของโมสาร์ตที่มีการวิจัยแล้วว่าดนตรีเปียโนคลาสสิกที่มีจังหวะช้า ฟังสบาย เป็นดนตรีเปียโนที่สมบูรณ์ มีเสียงครบทำนอง และความกลมกลืนของเสียงครบทุกเครื่องดนตรี นำเสียงที่ไพเราะมาเรียบเรียงให้เกิดเป็นเพลง มีจังหวะ ท่วงทำนอง และความกลมกลืนของเสียง จะไปช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเส้นทางเดินของประสาทที่ใช้ในการคิด ทำให้จิตใจสงบ กล้ามเนื้อสมองผ่อน คลายจึงพร้อมรับข้อมูลความรู้ต่างๆ ทำให้เรียนรู้ได้ดี
การเรียนเปียโนและเล่นเปียโน ลูกได้รู้จักตัวเลขจากการนับจังหวะ บวกลบค่าของเวลา และเข้าใจเรื่องของสัดส่วน จากการอ่านค่าความต่างของตัวโน้ตแต่ละตัว ตัวกลม ตัวขาว ตัวดำ หรือเขบ็ต
ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์
จากงานวิจัยโมสาร์ต เอฟเฟ็กติ์ อธิบายว่าดนตรีสามารถกระตุ้นให้สมองซีกซ้ายที่เกี่ยวกับความคิดเชิงตรรกะ และซีกขวาเกี่ยวกับจินตนาการทำงานประสานกันอย่างราบรื่น ส่งผลให้ลูกมีความสามารถเชิงมิติสัมพันธ์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความสามารถในการจินตนาการแล้วเชื่อมโยงให้เกิดภาพถ่ายทอดออกมาเป็นรูปธรรม เปรียบได้กับที่ลูกอ่่านโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์แล้วมองเห็นเป็นภาพ ก่อนจะแปลงออกมาเป็นตัวเลขและสัญลักษณ์ต่างๆ
ดนตรีเปียโนเพิ่มความฉลาดทางสติปัญญาให้ลูก ในลักษณะเดียวกับที่การออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง เพราะการเรียนรู้เป็นเรื่องของทักษะต้องอาศัยการฝึกฝน จดจำ ทำซ้ำ เพื่อสะสมความสามารถ การนำดนตรีเปียโนเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันได้สัมพัสและเข้าถึงดนตรีเปียโนได้ง่าย
***เคล็ดลับเพิ่มความจำด้วยเสียงดนตรีเปียโน
- ช่วยให้ลูกจำคำศัพท์ โดยใช้ทำนองของเพลงง่ายๆ แล้วใส่เนื้อใหม่เป็นคำศัพท์ต่างๆ
- ใช้เสียงเพลงแทนการบอกเวลา เลือกใช้เสียงเพลงเปียโนปลุกในตอนเช้า เวลาทานข้าว หรือทำกิจกรรมประจำวัน เพื่อให้ลูกจำเสียงเพลงว่าเมื่อได้ยินเพลงนี้ต้องหยุดเล่นไปทานข้าว
- เปรียบเทียบเหตุการณ์ที่ประทับใจเป็นเพลง ช่วยให้จำเหตุการณ์นั้นได้แม่นยำขึ้น เช่น เมื่อครอบครัวไปเที่ยวทะเลมีความสุข ลองร้องเพลงหรือเปิดเพลงที่สื่อความหมายถึงความสุขใจลูกฟัง เมื่อเวลาผ่านไปลูกได้ฟังเพลงนี้อีก ก็จะหวนระลึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นได้
เลี้ยงลูกให้ ดี ได้ด้วยเล่นเปียโน
การเลี้ยงลูกเครื่องมือชิ้นสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างลูกรักให้เป็นเด็กดี ก็คือ เปียโน นั่นเอง
เรียนเปียโนพัฒนา EQ
ลูกจะเพลิดเพลินเมื่อฟังดนตรี ท่วงทำนองที่ไพเราะทำให้รู้สึกคล้อยตามลูกจึงเรียนรู้ถึงความรู้สึกต่างๆ ผ่านอารมณ์เพลง พัฒนาไปสู่การรู้เท่าทันอารมณ์ตนเองและผู้อื่นได้ เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของเด็กที่มีความฉลาดทางอารมณ์ EQ ที่ดี
เมื่อลูกฮัมเพลง ร้องเพลง หรือกระโดดโลคเต้นตามจังหวะดนตรีแน่นอนว่าเแ็นช่วงเวลาของรอยยิ้ม ครอบครัวที่มีบรรยากาศของดนตรีอยู่รายล้อมจะเป็นครอบครัวสุขสันต์ เพราะไม่เพียงลูกอารมณ์ดี แต่ยังช่วยลด ความเครียด ความวิตกกังวลต่างๆ ของพ่อแม่ลงได้ เมื่อลูกยิ้ม หัวเราะ อารมณ์ดี พ่อแม่ก็มีความสุข
หากลองเปรียบเทียบดนตรีเปียโนเป็นเพื่อน เมื่อลูกจะคบใครเป็นเพื่อนย่อมต้องรู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไงแล้วเพื่อนแต่ละคนเป็นแบบไหน หากมีข้อขัดแย้งก็ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน เพื่อให้ความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ จะได้มีเพื่อนไว้พูดคุย พ่อแม่ควรทำให้เด็กยอมรับว่าดนตรีเปียโนคือเพื่อน ไม่ว่าลูกจะเหงา เศร้า ซึมหรือมีความสุข ลูกสามารถใช้ดนตรีเพื่อปลดปล่อยความเครียด หรือสร้างสีสันความสุขในชีวิตได้ และดนตรีเปียโนยังเป็นเพื่อนแท้ที่มีแต่ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนด้วย
เรียนเปียโนปลูกฝังคุณธรรม MQ
ลูกวัย 0-6ปี จะจดจำแบบพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดีของพ่อแม่และคนใกล้ชิดไว้ เมื่อโตขึ้นก็จะแสดงพฤติกรรมนั้นออกมา เนื่องจากในสมองมนุษย์มีเซลล์กระจกเงา (Mirror Neuron) มีหน้าที่ลอกแบบพฤติกรรมต่างๆ ที่มนุษย์ได้พบเห็น แล้วเกิดความประทับใจ จากนั้นจะปรับเป็นพฤติกรรมหรือนิสัยของตนโดยอัตโนมัติ ไม่คำนึงว่าถูกหรือผิด
สมองในส่วนการใช้เหตุผลแยกแยะสิ่งดีไม่ดีของเด็กวัยนี้ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ จึงยังคงทำงานด้วยอารมณ์และความรู้สึกเป็นหลัก อะไรที่ตื่นเต้น สนุก ประทับใจ เซลล์กระจกเงาก็จะซึมซับเข้าไป ดังนั้น การสอนให้เด็กรู้จักเรื่องผิดชอบชั่วดีด้วยการใช้เหตุผลอย่างเดียวจึงไม่ได้ผล ต้องผสานสิ่งที่สามารถเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของลูกเข้าไปด้วย สิ่งนั้นก็คือ ดนตรี เปีนโน นั้นเอง
งานวิจัยของ Dr.Gottfried Schlaug และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ที่ศึกษาผลกระทบทางดนตรีเปียโนที่มีผลต่อพัฒนาการของสมอง โดยศึกษาในเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป ในเบื้องต้นพบว่าทำนองและจังหวะของเพลงทำให้กลไกที่ใช้ในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในเรื่องคุณธรรมของเด็กเติบโตและทำงานได้ดีขึ้น
ลูกเข้าถึงผ่านทำนอง ดนตรีเปียโน เข้าไปโดยไม่รู้ตัว คล้ายเด็กที่ไม่กินผัก แต่เมื่อนำผักมาซุบแป้งทอดกรอบ หอม เด็กกลับกินได้อย่างเอร็ดอร่อย
เรียนเปียโนสร้างเสริม "สมองลูก สร้างสรรค์(CQ)
เสียงดนตรีที่บรรเลงในท่วงทำนองและจังหวะที่ละเมียดละไพเราะช่วยเสริมสร้างให้ลูกมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้ดี
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่างไว้ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้ต่างๆ นั้นมีมากมาย จะหาอ่านจากตำราหรือครูคนไหนๆ ก็ได้ แต่จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งเราต้องสร้างเอง ไอน์สไตน์จึงมักจะพักเล่นไวโอลินที่เขาเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ เพื่อช่วยให้เขาคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อยได้ โดยเชื่อว่าดนตรีเปียโนช่วยเสริมสร้างจินตราการที่นำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ได้
คนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากๆนั้น เกิดจากการที่สมองซีกซ้ายและซีกขวาทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเต็มที่ แล้วดนตรีเปียโนก็เป็นตัวช่วยทำให้สมองเกิดความแบบนอกกรอบโดยการนำข้อมูลด้านต่างๆ มาเชื่อมโยงกันระหว่างเหตุผล สุนทรียภาพ ความงาม ความลงตัว ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วย่อมก่อให้เกิดคิดใหม่ๆ ได้นั่นเอง
หากลองเปรียบเทียบดนตรีเปียโนเป็นเพื่อน เมื่อลูกจะคบใครเป็นเพื่อนย่อมต้องรู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไงแล้วเพื่อนแต่ละคนเป็นแบบไหน หากมีข้อขัดแย้งก็ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน เพื่อให้ความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ จะได้มีเพื่อนไว้พูดคุย พ่อแม่ควรทำให้เด็กยอมรับว่าดนตรีเปียโนคือเพื่อน ไม่ว่าลูกจะเหงา เศร้า ซึมหรือมีความสุข ลูกสามารถใช้ดนตรีเพื่อปลดปล่อยความเครียด หรือสร้างสีสันความสุขในชีวิตได้ และดนตรีเปียโนยังเป็นเพื่อนแท้ที่มีแต่ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนด้วย
เรียนเปียโนปลูกฝังคุณธรรม MQ
ลูกวัย 0-6ปี จะจดจำแบบพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดีของพ่อแม่และคนใกล้ชิดไว้ เมื่อโตขึ้นก็จะแสดงพฤติกรรมนั้นออกมา เนื่องจากในสมองมนุษย์มีเซลล์กระจกเงา (Mirror Neuron) มีหน้าที่ลอกแบบพฤติกรรมต่างๆ ที่มนุษย์ได้พบเห็น แล้วเกิดความประทับใจ จากนั้นจะปรับเป็นพฤติกรรมหรือนิสัยของตนโดยอัตโนมัติ ไม่คำนึงว่าถูกหรือผิด
สมองในส่วนการใช้เหตุผลแยกแยะสิ่งดีไม่ดีของเด็กวัยนี้ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ จึงยังคงทำงานด้วยอารมณ์และความรู้สึกเป็นหลัก อะไรที่ตื่นเต้น สนุก ประทับใจ เซลล์กระจกเงาก็จะซึมซับเข้าไป ดังนั้น การสอนให้เด็กรู้จักเรื่องผิดชอบชั่วดีด้วยการใช้เหตุผลอย่างเดียวจึงไม่ได้ผล ต้องผสานสิ่งที่สามารถเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของลูกเข้าไปด้วย สิ่งนั้นก็คือ ดนตรี เปีนโน นั้นเอง
งานวิจัยของ Dr.Gottfried Schlaug และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ที่ศึกษาผลกระทบทางดนตรีเปียโนที่มีผลต่อพัฒนาการของสมอง โดยศึกษาในเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป ในเบื้องต้นพบว่าทำนองและจังหวะของเพลงทำให้กลไกที่ใช้ในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในเรื่องคุณธรรมของเด็กเติบโตและทำงานได้ดีขึ้น
ลูกเข้าถึงผ่านทำนอง ดนตรีเปียโน เข้าไปโดยไม่รู้ตัว คล้ายเด็กที่ไม่กินผัก แต่เมื่อนำผักมาซุบแป้งทอดกรอบ หอม เด็กกลับกินได้อย่างเอร็ดอร่อย
เรียนเปียโนสร้างเสริม "สมองลูก สร้างสรรค์(CQ)
เสียงดนตรีที่บรรเลงในท่วงทำนองและจังหวะที่ละเมียดละไพเราะช่วยเสริมสร้างให้ลูกมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้ดี
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่างไว้ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้ต่างๆ นั้นมีมากมาย จะหาอ่านจากตำราหรือครูคนไหนๆ ก็ได้ แต่จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งเราต้องสร้างเอง ไอน์สไตน์จึงมักจะพักเล่นไวโอลินที่เขาเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ เพื่อช่วยให้เขาคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อยได้ โดยเชื่อว่าดนตรีเปียโนช่วยเสริมสร้างจินตราการที่นำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ได้
คนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากๆนั้น เกิดจากการที่สมองซีกซ้ายและซีกขวาทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเต็มที่ แล้วดนตรีเปียโนก็เป็นตัวช่วยทำให้สมองเกิดความแบบนอกกรอบโดยการนำข้อมูลด้านต่างๆ มาเชื่อมโยงกันระหว่างเหตุผล สุนทรียภาพ ความงาม ความลงตัว ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วย่อมก่อให้เกิดคิดใหม่ๆ ได้นั่นเอง
จากหนังสือ พลังดนตรีขาร์จพลังสมอง
